
เตรียมร่วมเชียร์ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา กับการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” ประเดิมฤดูกาล 2025
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดวัย 27 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้ลงแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” ในสังกัดทีม แอลซีอาร์ ฮอนด้า (LCR Honda) ตั้งแต่ฤดูกาล 2025 เป็นต้นไป หลังเลื่อนขึ้นมาจากรุ่นโมโตทู ภายใต้สังกัดทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่ลงเล่นตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2024 มาติดตามประวัติและผลงานของนักบิดชาวไทย
“ก้อง” สมเกียรติ เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลงรักความเร็วตั้งแต่เด็ก และมีคุณพ่อคุณแม่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เริ่มเข้าร่วมการแข่งขัน A.P. Honda Racing School ตอนอายุ 9 ปี และด้วยสไตล์การขับขี่ที่โดดเด่น กล้าได้กล้าเสีย แรงและเร็ว ทำให้เขาได้เข้าเป็นนักแข่งสังกัด A.P. Honda Racing Thailand เมื่ออายุ 10 ปี และใช้เวลาเพียง 5 ปีกวาดรางวัลในการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบในประเทศไทย
กระทั่งได้รับโอกาสจาก Dorna ผู้จัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก ให้เข้าสู่เส้นทาง “Road To MotoGP” ในรายการ Asia Talent Cup โครงการสร้างนักแข่งดาวรุ่งเอเชีย ในปี 2014 ก้าวขยับขึ้นเป็นนักแข่งระดับโลกในรุ่น Moto2 ในปี 2019 สังกัด IDEMITSU Honda Team Asia พร้อมยกระดับความสามารถของตัวเองอย่างต่อเนื่อง คว้าชัยชนะครั้งแรกใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในปี 2022 ที่อินโดนีเซีย จากนั้นนักบิดไทยเดินหน้าสร้างผลงานอย่างโดดเด่น เก็บมาได้ทั้งสิ้น 6 โพเดี้ยม และ 2 ชัยชนะ
ประวัติผลงาน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา
ปี 2013 : ได้รับการพิจารณาส่งเข้าร่วมการคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup ที่สนามแข่งเซปัง เอฟ วัน เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และสามารถผ่านเข้ารอบ 25 คนสุดท้ายได้จากนักแข่งทั้งหมดกว่า 600 คนทั่วเอเชีย
ปี 2014 : ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup อีกครั้ง และโชว์ผลงานทำคะแนนสะสมคว้าอันดับที่ 11 มาครองได้ในปีแรกที่ทำการแข่งขัน
ปี 2015 : ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup รุ่น Moto3™ โปรดักชั่น เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมสร้างผลงานคว้าแชมป์การแข่งขันเรซที่ 1 ใน การแข่งขันสนามแรกที่สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคว้ารองแชมป์อันดับ 2 ในการแข่งขันเรซที่ 1 ที่สนามโลเซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ มาครองอีกด้วย
ปี 2016 : ถือเป็นปีแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการของก้อง จากการเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด ซึ่งเป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ และยังลงแข่งในรายการ Asia Road Racing Championship รุ่น AP 250 cc อีกด้วย
ปี 2017 : ขยับมาร่วมรายการแข่งขันที่ไต่ระดับขึ้นมาอีกขั้นกับ FIM CEV Moto3 Junior World Championship 2017 และสามารถคว้าแต้มมาได้ถึง 26 คะแนน ทำให้คว้าอันดับที่ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพมาได้
ปี 2018 : ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด ไทยกรังด์ปรีซ์ จบที่ 9 โมโต ทรี นับเป็นครั้งแรกที่ได้ลงแข่งขันในรายการเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ พร้อมโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจจนได้สิทธิ์ให้ขยับไปแข่งขันในระดับ Moto2 ในปีต่อมา โดยที่ไม่ต้องผ่านการแข่งขันในระดับ Moto 3
ปี 2019 : ขยับจาก โมโต ทรี มาลงแข่ง โมโต ทู ภายใต้สังกัด LCR Honda เต็มตัวเป็นฤดูกาลแรก โดยจบอันดับ 10 ที่อาร์เจนติน่า และ คว้าอันดับ 9 ที่ประเทศไทย 2 ปีซ้อน
ปี 2020 : อันดับ 9 อีกครั้ง ที่ฝรั่งเศส
ปี 2021 : ท็อป 5 ที่ออสเตรีย
ปี 2022 : สร้างประวัติศาสตร์ นักบิดไทยคนแรกได้แชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่อินโดนีเซีย
ปี 2023 : ทำผลงานยอดเยี่ยมต่อเนื่องคว้าแชมป์โมโตทู ที่ประเทศญี่ปุ่น และคว้าอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมจบอันดับ 6 ในตารางคะแนนสะสม ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดที่ก้องเคยทำได้
ปี 2024 : จบอันดับ 12 ในตารางคะแนนสะสม
ปี 2025 : ก้าวแห่งการขึ้นสู่ MotoGP
“ก้อง” สมเกียรติ ได้รับโอกาสสำคัญและเซ็นสัญญากับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ (LCR Honda) ยอดทีมแข่งในศึกโมโตจีพี ขยับขึ้นสู่การแข่งขันระดับพรีเมียร์คลาส รุ่นใหญ่ที่สุดของโลก ในฤดูกาล 2025 เป็นเวลา 2 ฤดูกาล 2025-2026 ทำให้ “คิงคองก้อง” เป็นนักแข่งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกลงแข่งขันในโมโตจีพี โดยจะร่วมผนึกกำลังกับ โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดมากประสบการณ์ชาวฝรั่งเศส
เจ้าของหมายเลข 35 จะประเดิมสนามแรกให้กับทีม LCR ฮอนด้า ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศไทย หลังได้รับเลือกให้เป็นสนามเปิดฤดูกาลแทนกาตาร์ รวมถึงยังใช้สำหรับการทดสอบต้นปี (วินเทอร์เทสต์) ต่อจากมาเลเซีย อีกด้วย