
อาร์เซน่อล เปิดบ้านไล่ถล่ม แมนฯซิตี้ 5-1 ในเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก ทำให้เวลานี้ “ปืนใหญ่” ไม่แพ้ในลีกเป็นเกมที่ 14 ติดต่อกัน และตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง เหลือ 6 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด
มิเกล อาร์เตต้า ได้ ดาบิด ราย่า กลับมาเฝ้าเสาให้อาร์เซน่อล หลังกลางสัปดาห์ที่พบ คิโรน่า พลาดลงสนาม ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ได้ลงยืนแบ็กซ้าย จากโทษใบแดงถูกยกเลิก เกมรุก ไค ฮาแวร์ตซ์ มี กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ยืนขนาบข้าง
เป๊ป กวาดิโอล่า เปลี่ยนแมนฯ ซิตี้ 3 จุดจากเกมชนะ คลับ บรูกก์ ใน UCL เมื่อกลางสัปดาห์ สเตฟาน ออร์เตก้า ลงเฝ้าเสา ซาวินโญ่ ได้ลากเลื้อยริมเส้น และ โอมาร์ มาร์มูซ ตัวใหม่ได้ยืนล่าตาข่าย โดย อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ และ เอแดร์ซอน โมราเอส หลุดไปนั่งสำรอง
ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนยู เปิดรังพ่าย คริสตัล พาเลซ “มาเตต้า” ซัดเบิ้ล
ผลบอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล บุกชนะ บอร์นมัธ ซาล่าห์ เบิ้ล
เกมผ่านไปไม่ถึง 2 นาที มานูเอล อคานจี โดน เลอันโดร ทรอสซาร์ เพรสกดดันใส่ ก่อนบอลไปถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ยิงด้วยซ้ายผ่านมือ สเตฟาน ออร์เตก้า เข้าไป
นาทีที่ 6 เจ้าบ้านเกือบได้ประตูเพิ่ม มาร์ติน โอเดการ์ด จ่ายให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยิงเข้าไป แต่ทว่าผู้ตัดสินมองว่า มาร์ติเนลลี่ ล้ำหน้า
เกมผ่าน 20 นาที แมนฯ ซิตี้ ที่แม้จะตั้งเกมได้ แต่จังหวะสุดท้ายก็ยังกินแนวรับอาร์เซน่อล ไม่ได้
นาทีที่ 23 จากจังหวะเตะมุม โอมาร์ มาร์มูซ เปิดไปให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ได้โหม่ง แต่ ดาบิด ราย่า ปัดบอลไปชนคาน โดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ตามซ้ำไม่ทัน
นาทีที่ 26 อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูเพิ่มสุด เมื่อ สเตฟาน ออร์เตก้า ออกบอลไปให้ มาเตโอ โควาซิช แต่โดน เดแคลน ไรซ์ บีบแย่งมาได้และมาเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ยิงโล่งๆ แต่บอลหลุดกรอบอย่างเหลือเชื่อ
เกมผ่าน 35 นาที เกมของทั้งสองทีมเน้นไปในการครองบอล แต่ก็ยังเจาะเข้าพื้นที่สุดท้ายไม่ได้
นาทีที่ 44 ซาวินโญ่ ได้กดจ่อๆ บอลแฉลบ วิลเลี่ยม ซาลิบา แต่ ดาบิด ราย่า ยังล้มตัวปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม หมดครึ่งแรก อาร์เซน่อล นำอยู่ 1-0
กลับมาในครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ พยายามเซ็ตเกมลุยใส่ นาที 55 มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 เป็นจังวะที่ ฟิล โฟเด้น จ่ายให้ ซาวินโญ่ ตักไปที่เสาสองให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ขึ้นโหม่งเอาชนะ วิลเลี่ยม ซาลิบา โขกเข้าไป และถือเป็นประตูที่ 250 ในการค้าแข้งระดับสโมสรของดาวเตะนอร์วิเจี้ยน
แต่แล้วนาทีที่ 57อาร์เซน่อล กลับมานำ 2-1 อีกครั้ง จากลูกที่ โธมัส ปาร์เตย์ ดักบอลในจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น จ่ายพลาดก่อนยิงไปแฉลบหลัง จอห์น สโตน บอลเปลี่ยนทางเข้าไป
นาทีที่ 62 อาร์เซน่อล หนีเป็น 3-1 จาก ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ที่เติมขึ้นมายิงด้วยขวา บอลผ่านมือ สเตฟาน ออร์เตก้า ที่ปัดไม่อยู่เข้าไปและถือเป็นประตูแรกในทีมชุดใหญ่ ของแข้งวัย 18 ปีด้วยเช่นกัน
นาทีที่ 68 อาร์เซน่อล ได้จังหวะโต้กลับ เดแคลน ไรซ์ ไหลมาให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้ยิงด้วยขวา แต่ยังไปติดเซฟของ สเตฟาน ออร์เตก้า ที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ยังไม่เสียประตูที่ 4
นาทีที่ 76 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ให้บอลไปที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่วิ่งประคองมารับบอลจากจังหวะโต้กลับก่อนปั่นด้วยซ้ายให้ อาร์เซน่อล ทิ้งห่างไปเป็น 4-1
ช่วงนาที 90+3 อีวาน วานเนรี่ ตัวสำรองปั่นด้วยซ้ายเป็นประตูปิดท้ายให้ อาร์เซน่อล ชนะ 5-1 ไม่แพ้ในลีกติดต่อกันเป็นนัดที่ 14 มีเพิ่มเป็น 50 แต้ม เหลือช่องว่างตามหลัง ลิเวอร์พูล 6 แต้ม แต่เตะมากกว่า 1 นัด โดยเกมต่อไป จะบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ในเกมคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 กลางสัปดาห์นี้ ส่วน แมนฯ ซิตี้ มี 41 แต้มเท่าเดิม จากเตะ 24 นัด อยู่อันดับ 4 โดยเกมต่อไปจะบุกไปเยือน เลย์ตัน โอเรียนท์ ในสัปดาห์หน้าในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล (4-3-3) : ดาบิด ราย่า – ยูร์เรียน ทิมเบอร์, วิลเลี่ยม ซาลิบา , กาเบรียล มากัลเญส, ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ – มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์ – กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ไค ฮาแวร์ตซ์, เลอันโดร ทรอสซาร์
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า – มาเตอุส นูเนส, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อคานจี, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, มาเตโอ โควาซิช – ฟิล โฟเด้น, โอมาร์ มาร์มูซ, ซาวินโญ่- เออร์ลิง ฮาแลนด์